วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

Blogger
blogger นั้นมีเทมเพลท (Template) ให้คุณเลือกใช้งานอยู่พอสมควร ทำให้ลดระยะเวลา และขั้นตอนในการออกแบบไปได้มากทีเดียว แต่ถึงแม้จะเป็นเทมเพลท คุณก็ยังสามารถปรับแต่งเทมเพลตได้ละเอียดเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นความกว้าง สีที่ใช้กับส่วนต่าง ๆ ขนาดตัวอักษร หรือแม้จะเป็นการกำหนดจำนวนคอลัมน์ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน นอกจากนี้หากคุณมีความเข้าใจภาษา HTML คุณจะสามารถปรับแต่ง blogger ได้ละเอียดมากขึ้น หรือมีความสวยงามเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

การเขียนเนื้อหาของ blogger นั้นมีเครื่องมือในการเขียนบทความเหมือนกับชุดเครื่องมือในโปรแกรมประมวลผลคำต่าง ๆ เช่น จัดตำแหน่งข้อความ, แทรกรูปภาพ, ปรับแต่งตัวอักษรเป็นต้น เรียกได้ว่าเมื่อคุณลงมือเขียนบทความ คุณจะรู้สึกเหมือนใช้โปรแกรมประมวลผลคำในการพิมพ์เอกสาร ซึ่งช่วยให้คนที่ไม่มีความรู้ในการเขียน Source Code สามารถสร้างเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น

          Webblog กับ Website ต่างกันอย่างไร
  1. Website ต้องมี Domain Name และ Hosting เป็นของตนเอง และเสียค่าใช้จ่าย ส่วน Webblog นั้นเราสามารถสมัครใช้บริการได้ฟรี แต่เราต้องใช้ Domain ของผู้ให้บริการ Webblog นั้น ๆ อยู่ในชื่อ domain ของเราด้วย เช่น http://ninetechno.blogspot.com  เป็นต้น
  2. Website คุณสามารถสร้างรูปแบบของเว็บไซต์ได้เองมีความยืดหยุ่น ส่วน Webblog นั้นมี Template ให้เลือก โดยการเขียน blog ก็จะมีโครงสร้างที่ตายตัวไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้มากนัก
  3. Website หากคุณต้องการเขียนเองต้องเรียนรู้ภาษาคอมพิวเตอร์หลายภาษาอยู่พอสมควร แต่ Webblog คุณเพียงแค่เรียนรู้การใช้งานเล็กน้อยคุณก็สามารถใช้งานได้

          Webblog ทำอะไรได้บ้าง
  1. ทำเป็นเว็บไซต์ส่วนตัว
  2. ไม่ค่อยเกิดปัญหาเรื่องเว็บล่ม 
  3. เขียนเรื่องราวต่าง ๆ และแบ่งปันให้กับผู้อื่น
  4. หารายได้กับ google เช่น การเขียนบทความ และนำโฆษณาของ google มาติดลง webblog ของตนเอง
  5. ทำธุรกิจที่เรียกว่า E-commerce ก็พอจะใช้ได้อยู่บ้างครับ 
       รายละเอียดคร่าว ๆ พอเข้าใจเกี่ยวกับ Blogger กันแล้ว บทความต่อ ๆ ไปเราจะมาดูวิธีการใช้งานกันครับที่
ที่มา